top of page
Image by Aron Van de Pol
Discount (2).png

ศึกษาต่อประเทศอังกฤษ

ประเทศอังกฤษ เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมากในเรื่องของ ศิลปะวัฒนะธรรม และวิถีชีวิตของคนอังกฤษ คนส่วนใหญ่จึงนิยมไปศึกษาต่อประเทศที่มีมนต์เสน่ห์แห่งนี้ ทั้งนี้ นอกจากจะได้ความรู้ทางด้านวิชาการแล้ว การไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ ยังจะได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองผู้ดีนี้ด้วย

        ประเทศอังกฤษ (England) ที่จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร ( ชื่อเต็ม United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland หรือเรียกสั้นๆว่า United Kigdom ) ซึ่งหมายถึงดินแดนที่รวมทั้งเกาะใหญ่ (Great Britain) และแคว้นไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) ดินแดนทั้งหมดนี้ได้รวมอาณาเขต 4 ประเทศไว้ด้วยกัน ซึ่งก็มี  อังกฤษ สก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์

  อังกฤษ มีรูปแบบรัฐเป็นแบบ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา โดยพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจบริหารผ่านคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล คณะรัฐมนตรีนั้นเลือกโดยรัฐสภา รัฐสภาของประเทศอังกฤษ เป็นแบบสภาคู่ แบ่งเป็น 2 สภา คือ เฮาส์ออฟลอร์ดส (House of Lords) เป็นสภาสูงที่มาจาก การแต่งตั้ง และเฮาส์ออฟคอมมอนส์ (House of Commons) เป็นสภาล่างที่มาจากการเลือกตั้ง ประเทศอังกฤษไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร และกฎหมายส่วนใหญ่ก็จะปรากฏอยู่ในรูปประเพณีปฏิบัติอีกด้วย

พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันของประเทศอังกฤษ คือ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และผู้ดำรงตำแหน่งมกุฏราชกุมารพระองค์ปัจจุบัน คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ส่วนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอังกฤษ คือ เดวิด คาเมรอน

 

การศึกษาในประเทศอังกฤษ

ในประเทศอังกฤษ การศึกษาก็จะแบ่งออกเป็นหลายระดับ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และระดับปริญญา การศึกษาภาคบังคับเด็กจะต้องมีอายุตั้งแต่ 5 ปีถึง16 ปี เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล แต่สำหรับนักเรียนไทยแล้ว การไปเรียนต่อที่ประเทศนี้ เราจะสามารถเข้าศึกษาได้เฉพาะโรงเรียนเอกชนเท่านั้น

ในส่วนของภาคการศึกษา อังกฤษมีด้วยกัน 3 ภาค ดังนี้

  • ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนธันวาคม

  • ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มกลางเดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม

  • ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม

พรมแดน  ติดกับสก็อตแลนด์ และ เวลส์

ภูมิประเทศ  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบต่ำ มีภูเขาทางตอนเหนือ และ ตะวันตกเป็นเส้นแนวแบ่งเขตแคว้น

ภาษาที่ใช้  ภาษาอังกฤษ

ระบบการปกครอง ใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(ปัจจุบันคือ พระบรมราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 )

เมืองหลวง  ลอนดอน (London)

สกุลเงิน  ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) โดย 1 บาทไทย  = 37.37 ปอนด์  (20/8/2019)

ประชากร  ประมาณ 50,431,700 คน

รหัสโทรศัพท์  44

เวลา  สหราชอาณาจักรเป็นที่ตั้งของเส้นแบ่งเขตเวลาของโลก (GMT - Greenwich Mean Time) ดังนั้นประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของ GMT นี้ จึงมีเวลาที่เร็วกว่าที่นั่นประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ในช่วงฤดูร้อนเริ่มประมาณเดือนมีนาคม ถึงปลายตุลาคมจะมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง (Day Light Saving)

มารยาทบนโต๊ะอาหาร

มารยาทบนโต๊ะอาหารของชาวอังกฤษเป็นไปตามแบบสากลที่ใช้กันทั่วไปในยุโรป เราควรถือส้อมด้วยมือซ้าย ถือมีดด้วยมือขวา และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ควรรวบส้อมกับมีดวางไว้บนจานฝั่งขวามือ เพื่อแสดงให้เจ้าของบ้านรับรู้ว่าเราอิ่มแล้ว

เวลา

คนอังกฤษค่อนข้างให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลาเป็นอย่างมาก หากคุณมีนัด หรือได้รับการเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานต่าง ๆ หรือร่วมรับประประทานอาหาร ควรไปให้ถึงที่หมายก่อนเวลา 5-10 นาที ไม่ควรสายโดยเด็ดขาด และหากคุณต้องไปร่วมดินเนอร์แล้ว ควรนำเครื่องดื่ม หรือของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆติดไม้ติดมือไปด้วย เพื่อแสดงถึงการแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มในมื้อที่น่าจดจำที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

 

อยากไปเรียนที่ UK ควรเริ่มต้นยังไง ?

 

  1. ตรวจสอบความต้องการของตัวเอง อันดับแรกคือน้อง ๆควรรู้ก่อนว่าตัวเองต้องการไปเรียนอะไร ระดับไหน เพราะถ้าหากเรารู้ความต้องการของตัวเองดีแล้ว การหาข้อมูลและการเลือกโรงเรียนก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น

  2.  หาที่ปรึกษาที่น่าไว้วางใจ เมื่อเราทราบแล้วว่าอยากเรียนที่ไหน อยากเรียนเกี่ยวกับอะไรแล้ว น้อง ๆควรหาที่ปรึกษาที่น่าไว้ใจ ที่จะดูแลแนะนำทั้งการใช้ชีวิต และค่าใช้จ่ายให้น้อง ๆในต่างประเทศ ซึ่ง U-inter consultancy ก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างน้อง ๆเสมอเลยค่ะ

  3. เตรียมคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ

หากน้อง ๆอยากไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สำหรับประเทศอังกฤษนั้น ต้องใช้คะแนน IELTS ukvi จึงจะมีสิทธิเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ดังนั้นน้อง ๆควรผ่านการสอบ IELTS ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

  1. เตรียมร่างกาย แน่นอนว่าการไปเรียนที่ประเทศสหราชอาณาจักร ประเทศที่ใน 1 วันมีทั้งร้อน ฝน หนาว พี่ๆ U-inter อยากแนะนำให้น้อง ๆเตรียมดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีตั้งแต่อยู่ประเทศไทย เพราะหากมาเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนแบบนี้ คนที่มีสุขภาพอ่อนแอ ก็จะป่วยทันที และจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และการเรียนแน่นอน

  2. เตรียมตรวจฟัน น้อง ๆ ควรรักษาสุขภาพฟันและตรวจฟันก่อนไปเรียนที่สหราชอาณาจักร เพราะประกันนั้นไม่ได้คลอบคลุมถึงเรื่องทันตกรรม  และที่สำคัญคือ ค่าทำฟันที่โน่นมีราคาค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ดี หากเรามีความจำเป็นต้องไปรักษาจริง ๆเราก็สามารถติดต่อขอรับบริการจากสาธารณะสุขในประเทศอังกฤษ (General Practitioner) ได้ฟรี แต่ต้องไปลงทะเบียนในพื้นที่ที่น้อง ๆอยู่ก่อนเข้าขอรับบริการ

  3. ศึกษาแนวคิดและวัฒนธรรมของผู้คน    แน่นอนว่าในแต่ละบ้านเมืองย่อมมีกฎเกณฑ์วิถีปฏิบัติเป็นของตัวเอง  ซึ่งในฐานะผู้มาเยือนที่ดี เราควรรู้ไว้ว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำเด็ดขาด

  4. เตรียมเอกสารที่จำเป็น  เช่น

 

  • หนังสือเดินทาง (Passport)

  • ตั๋วเครื่องบินโดยสาร

  • จดหมายแนะนำตัว (Statement of Purpose: SOP)

  • จดหมายรับรอง (Letters of Recommendation)

  • เอกสารสำคัญทางการศึกษา ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) ปริญญาบัตร

  • หลักฐานทางด้านการเงิน (Bank Statement) รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำต่าง เช่น ค่าหอ ค่าเทอม ที่ควรบริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อนยื่นของวีซ่า

คอร์สเรียน และ สถาบันในประเทศอังกฤษ

lsi_logo.jpg
Frances King.png
bloomberry.jpg
Eng in Chester_UK.png
U-Inter แนะนำโรงเรียน Kaplan(2).png
OHC Oxford.jpg
wse-lo.jpg
bottom of page